พาวเวอร์แบงค์ขึ้นเครื่องได้ไม่เกินกี่แอมป์ ?
เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็พกพาวเวอร์แบงค์ หรือแบตสำรองติดตัวกันใช่ไหมครับ? โดยเฉพาะเวลาเดินทาง ที่มือถือ แท็บเล็ต กลายเป็นสิ่งจำเป็นสุดๆ ทั้งดูแผนที่ จองตั๋ว ติดต่อสื่อสาร การมีพลังงานสำรองไว้ชาร์จจึงสำคัญมาก แต่คำถามยอดฮิตที่หลายคนยังกังวลคือ "แล้วจะเอาพาวเวอร์แบงค์ขึ้นเครื่องบินได้ไหม?" "พกได้กี่อัน?" "ต้องมีความจุเท่าไหร่?"
ไม่ต้องห่วงครับ! จากประสบการณ์ตรง และ ข้อมูลที่อัปเดตล่าสุด บทความนี้จะมาเคลียร์ทุกข้อสงสัยแบบง่ายๆ สบายๆ ให้คุณเตรียมตัวเดินทางพร้อมพาวเวอร์แบงค์คู่ใจได้อย่าง ถูกต้อง ปลอดภัย และสบายใจหายห่วง ครับ!
"เอาขึ้นเครื่องได้ไหม?" ตอบเลยว่า "ได้!" ...แต่มี "กติกา" สำคัญนะ!
ข่าวดีคือ โดยทั่วไป เราสามารถนำพาวเวอร์แบงค์ขึ้นเครื่องบินได้ครับ แต่! เนื่องจากพาวเวอร์แบงค์มีแบตเตอรี่ลิเธียม (Lithium Battery) อยู่ข้างใน ซึ่งถ้าเกิดมีความเสียหายหรือร้อนจัดมากๆ ก็อาจติดไฟได้ เพื่อความปลอดภัยของทุกคนบนเครื่อง จึงมี "กฎเหล็ก" ที่ต้องทำตามกันทั่วโลกครับ
กฎเหล็กข้อที่ 1: "ห้ามโหลดใต้เครื่องเด็ดขาด!" ต้องพกติดตัวขึ้นเครื่องเท่านั้น!
จำง่ายๆ เลยครับ: พาวเวอร์แบงค์ ต้องอยู่ในกระเป๋าที่คุณถือติดตัวขึ้นเครื่อง เท่านั้น จะใส่กระเป๋าเป้ กระเป๋าถือ กระเป๋ากล้องก็ได้ ห้าม! ห้าม! ห้าม! ใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่จะโหลดลงใต้ท้องเครื่องเด็ดขาด
ทำไม? เพราะหากเกิดความร้อนสูงหรือมีปัญหาติดไฟขึ้นมาในห้องเก็บสัมภาระใต้ท้องเครื่อง จะไม่มีใครเห็นและเข้าไปดับไฟได้ทันท่วงที ซึ่งอันตรายมากๆ ครับ
กฎเหล็กข้อที่ 2: เช็ค "ความจุ" (mAh / Wh) ก่อนบิน พกได้แค่ไหน?
ความจุของพาวเวอร์แบงค์เป็นเรื่องสำคัญที่สายการบินควบคุมตามมาตรฐานสากลครับ ดูง่ายๆ ตามนี้:
ดูตัวเลขบนพาวเวอร์แบงค์: ส่วนใหญ่จะบอกเป็น mAh (มิลลิแอมป์ชั่วโมง) แต่กฎสากลมักอ้างอิงเป็น Wh (วัตต์ชั่วโมง)
จำค่าประมาณนี้ไว้:
20,000 mAh 100 Wh
32,000 mAh 160 Wh (ค่าอาจแตกต่างกันเล็กน้อย)
กฎความจุ:
ความจุไม่เกิน 20,000 mAh (หรือ 100 Wh): สบายมาก! พกติดตัวขึ้นเครื่องได้เลย รวมกันไม่เกิน 20 ก้อน ต่อคน (แต่ปกติคงไม่มีใครพกเยอะขนาดนั้นเนอะ!)
️ ความจุเกิน 20,000 mAh แต่ไม่เกิน 32,000 mAh (หรือ >100 Wh แต่ 160 Wh): พกได้ แต่จำกัด! เอาขึ้นเครื่องได้ ไม่เกิน 2 ก้อน ต่อคน และควรแจ้งเจ้าหน้าที่สายการบินให้ทราบด้วย (บางสายการบินอาจต้องขออนุญาตก่อน)
ความจุเกิน 32,000 mAh (หรือ > 160 Wh): ห้ามนำขึ้นเครื่องบินเด็ดขาด! ไม่ว่ากรณีใดๆ ต้องทิ้งอย่างเดียวครับ
กฎเหล็กข้อที่ 3 (ที่ต้องรู้!): "ห้ามใช้หรือชาร์จ" ตอนอยู่บนเครื่อง? แนวโน้มใหม่เพื่อความปลอดภัย: สืบเนื่องจากเคยมีเหตุการณ์พาวเวอร์แบงค์ร้อนจัดหรือลุกไหม้บนเครื่องบิน
ปัจจุบันหลายสายการบิน (โดยเฉพาะในเอเชียและที่เข้มงวดเรื่องความปลอดภัย) ได้ออกกฎเพิ่มเติม หรือมีแนวโน้มที่จะ "ห้ามใช้หรือชาร์จพาวเวอร์แบงค์ขณะอยู่บนเครื่องบิน" มากขึ้นเรื่อยๆ
ทำไม? เพื่อลดความเสี่ยงที่พาวเวอร์แบงค์จะทำงานหนัก เกิดความร้อนสะสม หรือเกิดปัญหาขัดข้องในห้องโดยสารที่จำกัด และอาจรับมือได้ยากหากเกิดเหตุขึ้น
คำแนะนำ: ชาร์จอุปกรณ์ของคุณให้เต็มก่อนขึ้นเครื่อง หรือใช้ช่อง USB ที่นั่ง (ถ้ามี) จะปลอดภัยและสบายใจกว่าครับ
เช็คลิสต์ง่ายๆ ก่อนเดินทางกับพาวเวอร์แบงค์
ดูความจุ: เช็คตัวเลข mAh / Wh บนพาวเวอร์แบงค์ ชัดเจนไหม? อยู่ในเกณฑ์ที่อนุญาตหรือเปล่า? (ไม่เกิน 32,000 mAh)
คำนวณจำนวน: ถ้ามีความจุ 20,000-32,000 mAh พกไปเกิน 2 ก้อนหรือเปล่า?
เก็บถูกที่: ย้ายพาวเวอร์แบงค์ทั้งหมดมาใส่ "กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง" หรือยัง? (ห้ามอยู่ในกระเป๋าโหลด!)
เตรียมใจ: วางแผนว่าจะ "ไม่เสียบชาร์จจากพาวเวอร์แบงค์" ตอนอยู่บนเครื่อง
(เผื่อชัวร์): หากไม่แน่ใจเรื่องความจุ หรือมีหลายก้อน ลองเช็คกฎของ "สายการบิน" ที่จะเดินทางด้วยโดยตรงทางเว็บไซต์ หรือสอบถามเจ้าหน้าที่ ณ เคาน์เตอร์เช็คอิน
บทสรุป: เตรียมตัวดี เดินทางสบายใจ ไร้ปัญหากับพาวเวอร์แบงค์
การพกพาวเวอร์แบงค์ขึ้นเครื่องบินไม่ใช่เรื่องยุ่งยากเลยครับ แค่ทำตามกฎง่ายๆ ไม่กี่ข้อ:
พกติดตัวขึ้นเครื่องเท่านั้น (ห้ามโหลด!)
ความจุไม่เกิน 32,000 mAh (ถ้าเกิน 20,000 mAh พกได้ไม่เกิน 2 ก้อน)
(สำคัญ!) งดใช้งานหรือชาร์จขณะอยู่บนเครื่องบิน
เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถเดินทางพร้อมพลังงานสำรองคู่ใจได้อย่าง สบายใจ ปลอดภัย และไม่เจอปัญหา หน้าเกทหรือบนเครื่องแน่นอนครับ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วออกเดินทางได้เลย!